ภาพยนตร์ที่มี จอห์นนี เดปป์ กำเนิดวันที่ 9 เดือนมิถุนายน คริสต์ศักราช 1963 เมืองโอเวนสโบโร เมืองเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา เขา เป็นลูกชายคนสุดท้องในบรรดาญาติ 4 คนของ จอห์น คริสโตเฟอร์ เดปป์ ซีเนียร์ ซึ่งเป็นวิศวกรโยธา รวมทั้ง เบตตี้ ซู ปาล์มเมอร์ (สกุลเดิม เวลส์) ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟหญิง เดปป์มีเชื้อสายเยอรมัน อินเดียนแดง เชอโรกี ไอริช ไอริชเหนือ สกอตติเตียนช เวลช์ ประเทศฝรั่งเศส ชาวฮอลแลนด์ เบลเยียม เยอรมัน แอฟริกา แล้วก็เขายังมีเชื้อสายของ Elizabeth Key Grinstead ซึ่งเป็นชาวแอฟริกันคนแรกที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพของตนและก็ถูกปลดจากการเป็นข้ารับใช้ของคนผิวขาวได้ นอกนั้น ถ้าหากว่านับเชื้อสายของเดปป์ขึ้นไปอีก 19 รุ่นจะพบว่าเขาตกทอดเชื้อสายมาจาก Margaret Percy แล้วก็ เซอร์ William Gascoigne ซึ่งเพอร์ซีเป็นบุตรสาวของเอิร์ลที่ Northumberland ที่ 3 แล้วก็สืบสายโดยตรงมาจากพระผู้เป็นเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ที่อังกฤษ โน่นเป็นว่าเขามีทวดผู้เดียวกันกับสมเด็จพระราชินีท้องนาถเอลิซสเบธที่ 2
นิโคลัส เคจ ได้พาเดปป์ไปทำความรู้จักกับ Tracey Jacobs ซึ่งเป็นเอเย่นส์ที่เขารู้จัก ภาพยนตร์ที่มี จอห์นนี เดปป์
เมื่อเทรซี่มองเห็นจอห์นนีเป็นครั้งแรก คุณก็กำเนิดความเอ็นดูเขาโดยทันที พอเหมาะพอเจาะกับที่ผู้กำกับอย่าง Wes Craven กำลังจะสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่โดยที่กำลังแคสติ้งผู้แสดงนำฝ่าย เทรซี่ก็เลยได้เชิญจอห์นนี่ให้ทดลองไปแคสบทนำ ทั้งที่ลักษณะท่าทางของเขาตอนนั้นมิได้ตรงกับผู้แสดงเลย แม้กระนั้นโชคเข้าข้างเขาเมื่อบุตรสาวของ Wes Craven และก็เพื่อนพ้องๆของคุณ ต่างถูกอกถูกใจในตัวเขา ทำให้เขาได้รับบทนำในหนังสยองขวัญปี 1984 เรื่อง A Nightmare on Elm Street แล้วก็นับว่าเป็นหนังเรื่องแรกของเดปป์ ภาพยนตร์ที่มี จอห์นนี เดปป์
แล้วเดปป์ก็ได้สวมบทบาทเล็กๆในหนังหลายเรื่อง จนกว่าเขาถูกวิงวอนให้สวมบท Officer Tom Hanson นายตำรวจชายหนุ่มนอกชุดแต่งกายที่ปลอมตัวเป็นผู้เรียนไฮสคูลในซีรีส์เรื่อง 21 Jump Street (กระจายเสียงในปี 1987 – 1991) ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงแล้วก็เป็นขวัญใจวัยรุ่นในอเมริกาเพียงแค่ชั่วช้าข้ามคืน
จอห์นนี่ตกลงใจสลัดรอยเปื้อนขวัญใจวัยรุ่น โดยการเลือกเล่นบทนำในเรื่อง Cry-Baby (คริสต์ศักราช 1990) และก็ในปีเดียวกันนั้นเขาก็ได้ร่วมงานกับ ทิม เบอร์ตัน ในเรื่อง Edward Scissorhands ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ทำให้กิตติศัพท์ของจอห์นนี เดปป์เริ่มมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นในต่างแดน ต่อจากนั้นเขาก็สวมบทในหนังเล็กๆอีกหลายเรื่องซึ่งแม้จะไม่ใช่หนังทำเงิน แต่ว่าก็ได้รับกระแสวิจารณ์ออกมาในทางบวกเป็นส่วนมากไม่ว่าจะเป็น Arizona Dream (คริสต์ศักราช 1992) , Benny & Joon แล้วก็ What’s Eating Gilbert Grape (คริสต์ศักราช 1993) ก่อนที่จะกลับมาร่วมงานกับ ทิม เบอร์ตัน อีกรอบในเรื่อง Ed Wood (film) ในปี 1994 รวมทั้งสวมบทบาทนำในเรื่อง Don Juan DeMarco อีกด้วย
ใน คริสต์ศักราช 1995 เดปป์ได้ร่วมงานกับ จิม จาร์มุช ผู้กำกับหนังอินดี้ ในหนังขาวดำเรื่อง Dead Man และก็ได้รับบทนำในหนังอาชญากรรมตื่นเต้นเรื่อง Nick of Time ที่มีรายได้และก็คำติชมออกมาไม่ดีนัก จอห์นนี่ไม่เป็นผลงานออกมาใน คริสต์ศักราช 1996 ถัดมาในปี 1997 เขาก็ได้สวมบทนำในเรื่อง Donnie Brasco ซึ่งผลิตขึ้นจากความเป็นจริงของ FBI ที่ปลอมตัวไปอยู่ในแก๊งค์มาเฟียนานถึง 6 ปี ผลงานอีกประเด็นในปี 1997 ของเดปป์เป็นเรื่อง The Brave ผลงานที่เขาร่วมเขียนบทกับพี่ชาย แล้วก็ดูแลภาพยนตร์ด้วยตัวเอง The Brave เป็นเยี่ยมในหนังที่ถูกเลือกสรรให้ฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปีนั้น กลับได้รับกระแสตอบรับไม่ดีจากนักวิพากษ์วิจารณ์ในอเมริกา ทำให้เขาตกลงใจไม่นำหนังหัวข้อนี้เข้าฉายในอเมริกา
ใน คริสต์ศักราช 1998 เดปป์ได้รับหน้าที่ที่น่าดึงดูดอีกประเด็น
โน่นเป็นเรื่อง Fear and Loathing in Las Vegas (film) จากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกันของนักประพันธ์มีชื่ออย่าง Hunter S. Thompson ซึ่งเป็นเลิศในผู้เขียนที่จอห์นนี่ชื่นชอบสูงที่สุด แล้วก็ในปี 1999 จอห์นนีก็สวมบทบาทนำในรูปภาพยนตร์ถึง 3 เรื่องซึ่งเป็นหนังแนวสยองขวัญทั้งสิ้นเป็นThe Ninth Gate , The Astronaunt’s Wife รวมทั้งการกลับมาร่วมงานกับทิม เบอร์ตัน อีกทีใน Sleepy Hollow ภาพยนตร์ที่มี จอห์นนี เดปป์
ใน คริสต์ศักราช 2000 มีภาพยนตร์ที่เขาแสดงออกฉาย 3 เรื่อง แม้กระนั้นแต่ละเรื่องก็เป็นเพียงแค่บทเล็กๆเพียงแค่นั้น เป็นบทยิปซีใน The Man Who Cried , บทสาวจำพวกสองใน Before Night Falls และก็ดาราหนังสมทบใน Chocolat ซึ่งเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนั้นด้วย นอกเหนือจากนี้เขายังเป็นดาราหนังรับเชิญในซีรีส์เรื่อง The Fast Show ในขณะที่มีชื่อว่า The Last Ever Fast Show ก่อนจะเล่นบทนำในหนังปี 2001 อีกสองเรื่อง Blow ซึ่งเกิดเรื่องจริงของคนค้ายาเสพติดระหว่างชาติ และก็อีกหัวข้อเป็น From Hell ซึ่งเกิดเรื่องเกี่ยวกับผู้ร้ายโด่งดังอย่าง Jack the Ripper
เดปป์ ในบท แจ็ค สแปร์โรว์
เดปป์ไม่เป็นผลงานออกมาใน คริสต์ศักราช 2002 แต่แล้วพอถึงปี 2003 เปลี่ยนไปเป็นปีที่มีการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตผู้แสดงของเขาเมื่อจอห์นนี่ เดปป์ตกลงใจสวมบทบาทกัปตันแจ็ก สแปร์โรว ในเรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl ซึ่งแปลงเป็นหน้าที่ที่บรรลุผลสำเร็จเยอะที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา และก็ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในฐานะ ดารานำชายเยี่ยม เป็นครั้งแรก รวมทั้งยังเป็นหนังคนแสดงเรื่องแรกของค่ายดิสนีย์ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์อีกด้วย เว้นเสียแต่เรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl แล้ว จอห์นนี่ เดปป์ก็ส่งผลงานแอ็กชั่นอีกเรื่องในปี 2003 โน่นเป็น Once Upon A Time in Mexico ภาพยนตร์ที่มี จอห์นนี เดปป์
ใน คริสต์ศักราช 2004 เดปป์ส่งผลงานสยองขวัญเรื่อง Secret Window รวมทั้งได้ให้เสียงนักแสดงในการ์ตูนซีรีส์ที่ฉายทางโทรทัศน์เรื่อง King of the Hill ก่อนที่จะเป็นผู้แสดงรับเชิญในภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง Ils se marièrent et eurent beaucoup d’enfants รวมทั้งสวมบทนำในเรื่อง Finding Neverland รวมทั้ง The Libertine แล้วก็หน้าที่ใน Finding Neverland ก็ทำให้เขาได้เข้าชิงออสการ์เป็นครั้งที่ 2 อีกด้วย
ใน คริสต์ศักราช 2005 เดปป์กลับมาร่วมงานกับทิม เบอร์ตันอีกรอบ ในรูปภาพยนตร์เรื่อง Charlie and the Chocolate Factory ซึ่งนับว่าเป็นหนังอีกหัวข้อที่ประสบผลสำเร็จอย่างมากในอาชีพการแสดง ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังได้ให้เสียงบรรยายในแอนิเมชั่นเรื่อง Corpse Bride ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ดูแลโดยทิม เบอร์ตันด้วยเหมือนกัน
ใน คริสต์ศักราช 2006 และก็ 2007 เดปป์กลับมาสวมบทบาทกัปตันแจ็ก สแปร์โรว
อีกทีในรูปภาพยนตร์ภาคต่อของ Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl โดยภาค 2 ที่ออกฉายในปี 2006 ใช้ชื่อว่า Pirates of the Caribbean: Dead Man’s Chest ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของจอห์นนี่ที่ทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญทั้งโลกแล้วก็ภาคที่ออกฉายในปี 2007 ใช้ชื่อภาคว่า Pirates of the Caribbean: At World’s End แล้วก็ในปี 2007 เขาก็กลับไปร่วมงานกับทิม เบอร์ตันเป็นครั้งที่ 6 ในรูปภาพยนตร์เพลงเรื่อง Sweeney Todd: The Demon Barber of Fleet Street ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลดารานำชายดีเยี่ยมที่สุด สาขาภาพยนตร์เพลงหรือขำขันได้เป็นครั้งแรก envy-themovie.com
เดปป์เว้นวรรคการแสดงไปหนึ่งปี ถัดมาในปี 2009 เขาได้ให้เสียงบรรยายในแอนิเมชั่นมีชื่อเสียงที่ฉายทางโทรทัศน์อย่าง SpongeBob SquarePants ในตอนพิเศษที่ใช้ชื่อตอนว่า SpongeBob SquarePants vs. The Big One ก่อนจะเป็นผู้แสดงรับเชิญในรูปภาพยนตร์เรื่อง The Imaginarium of Doctor Parnassus แทนที่ฮีธ เลดพบร์ที่เสียชีวิตในเวลาที่ภาพยนตร์ยังถ่ายทำไม่เสร็จ และก็ในปีเดียวกันนั้นจอห์นนีก็ได้รับบทบาทนำในรูปภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่ผลิตขึ้นมาจากความจริงอย่าง Public Enemies อีกด้วย
ใน คริสต์ศักราช 2010 เดปป์รับบทบาทนำในรูปภาพยนตร์เรื่อง Alice in Wonderland ซึ่งถือได้ว่าเป็นการร่วมงานกับทิม เบอร์ตันเป็นครั้งที่ 7 ซึ่งภาพยนตร์หัวข้อนี้ไปถึงเป้าหมายในด้านของรายได้อย่างยิ่งและก็ทำรายได้กว่าพันล้านเหรียญทั่วทั้งโลก ในปีเดียวกันนั้นจอห์นนีก็ได้แสดงในหนังแอ็กชั่นเรื่อง The Tourist ซึ่งทำให้ในปีนั้นเขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองในสาขาผู้แสดงนำฝ่ายชายเหมาะสมที่สุดในรูปภาพยนตร์เพลงหรือขบขันจาก 2 หน้าที่เป็นบท Mad Hatter จาก Alice in Wonderland แล้วก็บท Frank Tupelo จาก The Tourist ภาพยนตร์ที่มี จอห์นนี เดปป์
เดปป์ได้ให้เสียงบรรยายในรูปภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ออกฉาย คริสต์ศักราช 2011 เรื่อง Rango ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ได้รางวัลออสการ์ในสาขาแอนิเมชั่นดี รวมทั้งเขายังกลับมาสวมบทบาทกัปตันแจ็ก สแปร์โร่ว อีกรอบในรูปภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องลำดับที่สามของจอห์นนี เดปป์ที่ทำรายได้มากยิ่งกว่าพันล้านเหรียญทั่วทั้งโลก และก็ทำให้ตอนนี้เขายังคงเป็นผู้แสดงเพียงแต่คนแรกแล้วก็ผู้เดียวที่มีภาพยนตร์ที่นำแสดงทำรายได้ถึงพันล้านเหรียญสูงที่สุดในโลก แล้วก็จอห์นนีก็มีภาพยนตร์อีกหัวข้อของเขาที่ออกฉายในปี 2011 หากแม้จะถ่ายทำมาตั้งแต่ปี 2009 ก็คือ The Rum Diary ซึ่งเป็นภาพยนตร์อีกหัวข้อที่ผลิตขึ้นมาจากนิยายของHunter S. Thompson นอกนั้นเขายังเป็นดารารับเชิญในซีรีส์เรื่อง Life’s Too Short อีกด้วย
